รูปแบบการดูแลคนยากลำบากและเปราะบางทางสังคม

  • photo  , 1280x720 pixel , 135,169 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 136,631 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 130,448 bytes.

"รูปแบบการดูแลคนยากลำบากและเปราะบางทางสังคม"
เขียนโดย ชาคริต โภชะเรือง

ขออนุญาตนำเสนอค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ

จากสภาพปัญหาการทำงานการดูแลคุณภาพชีวิตกลุ่มเป้าหมายเป็นไปในลักษณะสงเคราะห์มากกว่าพัฒนาเชิงระบบ ไม่ต่อเนื่อง และแยกส่วนดำเนินการ ยึดนโยบายจากระบบราชการที่มาจากส่วนกลางและ top down เป็นหลัก ประกอบกับมีช่องว่างการเข้าไม่ถึงสิทธิ์ตามลักษณะสังคมใหม่ที่มีการเดินทางเข้าถิ่น เร่ร่อน เส้นแบ่งการทำงานพร่าเลือน ไร้พรมแดน แต่กรอบวิธีคิดภาครัฐยังไม่สามารถปรับตัวตาม

เขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขต ๑๒ กำลังพัฒนารูปแบบการดูแลคนยากลำบากและเปราะบางทางสังคม ใน ๒ ลักษณะก็คือ

๑)พัฒนาระบบบริการ ผ่านศูนย์บูรณาการระดับตำบล เน้นการดูแลประชากรที่เข้าถึงสิทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบบริการ

จะเรียกชื่ออะไรก็แล้วแต่ แนวทางหลัก คือประสานการทำงานกับกลไกที่มีในตำบล อาทิ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ศูนย์พัฒนาครอบครัว ศูนย์บริการคนพิการ สภาเด็กและเยาวชน ศูนย์ไอทีซี ศูนย์สร้างสุขชุมชน ฯลฯ รวมไปถึงงานกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ งานพัฒนาระบบดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุในวัยพักพิง กลไกระดับตำบลจำเป็นจะต้องปรับตัวโดยใช้ประชากรเป้าหมายรายบุคคลเป็นตัวตั้ง ดำเนินการผ่านแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตที่บูรณาการทุกด้านที่เกี่ยวข้อง

ยกตัวอย่างศูนย์สร้างสุขชุมชนตำบลทับช้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา หรือในชื่อเดิมที่เรียกว่าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพโดยชุมชนตำบลทับช้าง เกิดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลทับช้าง โรงพยาบาลสมเด็จฯ นาทวี คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ(พชอ.)นาทวี กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดสงขลา มูลนิธิชุมชนสงขลา Node flagship สสส.สำนัก ๖ สงขลา ที่ต้องการพัฒนาระบบบริการเชิงรุกนอกสถานที่ในการดูแลคนพิการที่มีจำนวน ๑๓๙ คน ผู้สูงอายุติดเตียง ๕๐ คน คนยากลำบาก๑๒๙ คน(ข้อมูล www.communeinfo.com ณ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒)

โดยมีโครงสร้างการบริการด้านสุขภาพดังนี้ ๑.แพทย์แผนไทย ภารกิจ : นวด ประคบ อบสมุนไพร พอกเข่าสมุนไพร ดำเนินการโดย : หมอนวดแผนไทยภายในตำบลทับช้าง

๒.กายภาพบำบัด ภารกิจ : กายภาพบำบัดผู้ป่วยทางระบบประสาท เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต อ่อนแรงครึ่งซีก และผู้ป่วยทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ปวดเข่า ปวดหลัง ดำเนินการโดย : นักกายภาพ และ จิตอาสา จากคนในชุมชนตำบลทับช้าง

๓.กายอุปกรณ์ ภารกิจ : บริการให้ยืมกายอุปกรณ์เครื่องช่วย เช่น ไม้เท้า ไม้ค้ำยัน รถเข็น เตียง ดำเนินการโดย : เจ้าหน้าที่ อบต.ทับช้าง

ยกตัวอย่างขั้นตอนการรับบริการฟื้นฟูสุขภาพ จะเริ่มด้วยการคัดกรองผู้ป่วยโดยจิตอาสาคัดกรองเบื้องต้น หรือทีม HHC คัดกรองผู้ป่วย/คนพิการจากการลงเยี่ยมบ้าน แล้วมีนักกายภาพบำบัดจากรพ.ลงคัดกรองผู้ป่วยในคลีนิคโรคเรื้อรังในแต่ละ รพ.สต. (รพ.สต.วังไทร/รพ.สต.เกาะจง/รพ.สต.ทับช้าง) ต่อจากนั้นนักกายภาพบำบัด ซักประวัติ/ตรวจร่างกาย/วางแผนการรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพกายภาพบำบัด นัดผู้ป่วยมารักษาต่อเนื่องและประเมินผลการรักษาตามมาตรฐาน กรณีอาการไม่ทุเลาลงและมีภาวะแทรกซ้อนจะนัดคิวเพื่อพบแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่โรงพยาบาล หรือแพทย์พิจารณาเพื่อรักษาที่โรงพยาบาลหรือส่งตัวเพื่อรักษาต่อที่ศูนย์สร้างสุขชุมชน

วิธีการจัดตั้งศูนย์สร้างสุขชุมชน ๑)แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่ดำเนินการอยู่แล้ว

๒)เพิ่มอาสาสมัครด้านกายภาพบำบัด คัดเลือกจากอสม.เชี่ยวชาญ/อสม./อพม./CG หรือจิตอาสาจำนวนไม่น้อยกว่า ๔๐ คน รับคนไข้จากรพ.อำเภอที่ต้องได้รับการฟื้นฟูมาดูแลต่อ หรือดูแลกลุ่มเป้าหมาครอบคลุมทั้งมิติกาย จิต สังคม หรือให้บริการกลุ่มเป้าหมายโดยมีนักกายภาพบำบัดควบคุม มีการจัดสรรงบประมาณในการให้บริการแต่ละครั้งโดยไม่ให้ซ้ำซ้อนกันกับงบอื่น เป็นกรณีรายเดือนผ่านรพ.

๓)กองทุนฟื้นฟูฯสนับสนุนงบประมาณนำร่องศูนย์ละ ๕ แสนบาทในด้านปรับปรุงศูนย์ และจัดซื้อกายอุปกรณ์ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

๔)พัฒนาระบบข้อมูลกลางเพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมาย จัดเก็บข้อมูลโดยกลุ่มอาสาสมัคร ๔๐ คนบันทึกข้อมูลพร้อมภาพลงในระบบข้อมูลกลางที่มีมูลนิธิชุมชนสงขลาให้การสนับสนุน ใน www.ข้อมูลชุhttp://xn--b3c4aw.com/(www.communeinfo.com)/Application:iMed@home ประมวลผลข้อมูลให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานโครงการรองรับ จัดซื้อกายอุปกรณ์และพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครในการดูแลตามสภาพปัญหา

สภาพปัญหาพื้นฐานของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ จากการสำรวจข้อมูล กรณีกลุ่มเปราะบางของตำบลทับช้างส่วนใหญ่เพศหญิง จบการศึกษาประถมต้นหรือไร้การศึกษา ส่วนใหญ่มีบ้านเป็นของตนเอง แต่เป็นโสด/หม้่าย ฐานะยากจนแต่ไม่ถึงกับลำบากมาก มีรายได้แต่ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย มีความเจ็บป่วยในหลายโรครุมเร้า ตกอยู่ในภาวะช่วยตัวเองได้บ้างไม่ได้บ้าง มีไม่น้อยต้องการผู้ดูแล พูดคุย ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน กายอุปกรณ์ สิ่งของเครื่องใช้ การซ่อมบ้าน การมีสิ่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในฐานะผู้สูงวัย

กิจกรรมที่ดำเนินการโดยใช้กลไกของศูนย์สร้างสุขชุมชนจึงมีมากกว่าแค่การบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยได้ร่วมบูรณาการกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางดังกล่าว ประกอบด้วยกลุ่มกิจกรรมที่กำลังดำเนินการ ประกอบด้วย การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางในภาพรวมตำบลและแผนดูแลคุณภาพชีวิตรายบุคคล ทำงานแบบบูรณาการโดยประสานภาคีนอกพื้นที่และในพื้นที่จำนวนมากให้สามารถทำงานร่วมกันโดยใช้ care plan รายบุคคลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ จำแนกเป็นยุทธศาสตร์แต่ละด้าน ได้แก่ การบริการสุขภาพ การแก้ปัญหาด้านอาชีพและรายได้ การแก้ปัญหาด้านสิทธิทางสังคม การปรับสภาพแวดล้อม เป็นต้น

โดยใช้แอพพลิเคชั่น iMed@home และ www.communeinfo.com แบบครบวงจร ในการปรับข้อมูลรายบุคคลให้มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตด้านต่างๆเป็นปัจจุบัน ประมวลผลข้อมูลในภาพรวมเพื่อนำมาปรับยุทธศาสตร์การทำงาน และระบบเยี่ยมบ้านในรูปแบบจิตอาสาแบบบุคคลและกลุ่มบูรณาการเพื่อให้สามารถติดตามผล ประเมินผล ลดช่องว่างการให้ความช่วยเหลือที่ซ้ำซ้อนและไม่สามารถวัดผล เสริมด้วยกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ การระดมทุนไม่ว่าจะเป็นเพื่อการศึกษา ของใช้้มือสอง สิ่งของเครื่องใช้ วัสดุสิ้นเปลือง สิ่งอำนวยความสะดวกจากชุมชนและเครือข่่าย การทำธรรมนูญตำบล เป็นต้น

มีภาคีหลักได้แก่ อบต.ทับช้าง กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.) สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) บัณฑิตอาสา สถาบันวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ(วพส.มอ.) ศอบต. มูลนิธิชุมชนสงขลา รพ.สมเด็จฯ พชอ.นาทวี รพ.สต. ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ ฯลฯ

ศูนย์สร้างสุขชุมชนจะทำหน้าที่ในการให้บริการกับกลุ่มเป้าหมายระดับบุคคล โดยมีคณะกรรมการคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดเป็นภาคีหนุนเสริม

๒) ชุมชนไม่ทอดทิ้งกัน

รูปแบบนี้เน้นการทำงานที่ก่อตัวโดยชุมชนนำ ราชการตาม เน้นแก้ปัญหาให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เข้าไม่ถึงสิทธิ์ หรือชุมชนในพื้นที่มีความเข้มแข็งพอที่จะเป็นผู้นำ

ยกตัวอย่างชุมชนแหลมสนอ่อน : ชุมชนเปราะบางดูแลคนเปราะบาง ปี ๒๕๖๐ กลุ่มออมทรัพย์ชุมชนแหลมสนอ่อนร่วมกับมูลนิธิชุมชนสงขลา/ศูนย์ประสานงานภาคีพัฒนาจังหวัด(ศปจ.) ในฐานะองค์กรภาคประชาสังคมจัดเก็บข้อมูลคนยากลำบากและเปราะบางทางสังคมในพื้นที่อำเภอบ่อยาง จึงเกิดกิจกรรมในการดูแลสมาชิกที่เป็นกลุ่มเปราะบางทางสังคมมาจนถึงปัจจุบัน

ชุมชนแหลมสนอ่อน ตำบลบ่อยางอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าทำเลทองของนครสงขลาที่รอการพัฒนา ผู้บริหารเทศบาลหลายยุคที่ผ่านมาก็พยายามหาโครงการที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ แต่ก็ยังทำไม่ได้ด้วยปัญหาของการใช้กรรมสิทธิ์ที่ดินของชุมชนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการอยู่อาศัยในพื้นที่มากว่า ๓๐ ปีในฐานะคนอพยพมาอาศัยที่ราชพัสุด กรมธนารักษ์ แต่ไม่ได้ทำสัญญาเช่าให้ถูกต้อง ที่นี่มีประชากรราวๆ ๒๐๐ คน ๘๐ ครัวเรือน ถูกรัฐบาลสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จัดระเบียบชายหาดสมิหลาแล้วก็ให้มาอยู่อาศัยที่นี่ โดยไม่ได้ทำสัญญาให้เป็นกิจลักษณะ สมาชิกเริ่มสร้างบ้านทำร้านอาหารประกอบกิจการของตนมานับสิบปี ไฟฟ้าที่ได้เป็นไฟชั่วคราว น้ำก็เป็นน้ำบาดาลเจาะเองหรือซื้อน้ำทาน เทศบาลนครสงขลาได้ขอเช่าพื้นที่ใช้ประโยชน์มานานพอกันแต่ก็ไม่มีโอกาสได้พัฒนาโครงการใดเป็นรูปธรรม ชุมชนก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ของพื้นที่เพราะไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ เช่าใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่ผู้บุกรุก จนกระทั่งล่าสุดก็คือธนารักษ์จะให้ชุมชนเช่าที่ให้ถูกต้อง การเป็นชุมชนเปราะบางทำให้เข้าใจสภาพปัญหาของคนเปราะบางด้วยกัน เมื่อมีโอกาสได้ร่วมกับศปจ.สงขลาเก็บข้อมูลคนยากลำบากและเปราะบางทางสังคมในพื้นที่ตำบลบ่อยาง จึงเป็นที่มาของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันดูแลคนยากลำบากฯในชุมชนทั้งในพื้นที่ชุมชนและนอกชุมชน การดำเนินงานดังกล่าวอาศัยภาวะผู้นำของชุมชน ได้แก่ คุณบุณย์บังอร ชนะโชติและคุณนิพนธ์ ชนะโชติ เป็นแกนนำสำคัญร่วมกับคณะทำงานของศูนย์ประสานงานภาคีพัฒนาอำเภอเมืองมาหนุนเสริม ดำเนินการในลักษณะชุมชนไม่ทอดทิ้งกัน

โดยมีกิจกรรมสำคัญประกอบด้วย

๑.กิจกรรม “ห้องเรียนประจำเดือน” สนับสนุนผู้สูงอายุให้มีกิจกรรมความสัมพันธ์ในกลุ่มของตนดำเนินการกิจกรรมสำคัญได้แก่ การลดขยะเปียกในครัวเรือน นำมาใช้ประโยชน์เพื่อการปลูกผัก การนำวัสดุเหลือใช้มาใช้ประโยชน์ การลดรายจ่ายเสริมรายได้ การดูแลสุขภาพ ฯลฯ การจัดกิจกรรมแต่ละครั้งจะมีผู้สูงอายุจากชุมชนรอบข้างและข้าราชการเกษียณมาร่วม โดยมีเครือข่ายสวนผักคนเมืองหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เทศบาลนครสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัด ฯลฯ มาร่วมสนับสนุน

๒.ปลูกผักในป่าสน ทำซุ้มตำลึง ใช้ประโยชน์ใบตำลึงยันลูกตำลึง พร้อมๆกับนำขยะเปียก ขยะของเก่ามาทำปุ๋ยหมัก รายได้ส่วนหนึ่งนำมาดูแลสมาชิกที่ยากลำบาก

๓.ศูนย์ผ้าแบ่งปัน ร่วมกับสมาคมอาสาสร้างสุข นำเสื้อผ้ามือสองที่ได้รับการบริจาคมาแบ่งปันส่งต่อให้กับสมาชิกที่ต้องการ ส่วนหนึ่งนำไปจำหน่ายสร้างรายได้

๔.การระดมทุนด้วยการจัดตั้งกองทุนกลาง มีการจัดเลี้ยงน้ำชาร่วมกับเครือข่ายต่างๆในพื้นที่

๕.ร่วมกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด นำผู้เคสที่ผ่านการตรวจสุขภาพพื้นฐานมาร่วมฟื้นฟูโดยกิจกรรมชุมชนบำบัด

๖.ร่วมแก้ปัญหาคนยากลำบากและเปราะบางทางสังคม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพฯ สนง.พัฒนาชุมชน เทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพภาคประชาชนอำเภอเมือง สมาคมอาสาสร้างสุข ฯลฯ ในการแก้ปัญหาการเข้าไม่ถึงสิทธิ์พื้นฐาน ประสานงานการทำบัตรประชาชน การสร้างอาชีพและรายได้

ปัจจุบันกำลังขยายผลไปยังกลุ่มออมทรัพย์ในตำบลบ่อยางอีก ๘ กลุ่มมาเป็นเครือข่ายการทำงาน

Relate topics