ทำสิ่งที่มีรอบตัวเป็นอาชีพ
"ทำสิ่งที่มีรอบตัวเป็นอาชีพ"
เขียนโดย ชาคริต โภชะเรือง
จากงานกองทุน SIF ทำให้เห็นโอกาสต่อยอดมาเป็นศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านท่ามะขาม และศูนย์กสิกรรมธรรมชาติท่ามะขาม จ.กาญจนบุรี คุณแม่ทิวาพร ศรีวรกุล อบรมเกษตรกรพักชำระหนี้ ให้สามารถเก็บปัจจัยการผลิตเอาไว้ พื้นฐานงานเกษตรถูกยกระดับโดยคุณยุทธการที่เป็นลูกชาย นำความรู้ทางวิศวกรรมมาวางแผนอย่างเป็นระบบ เกิด ๗ ฐานเรียนรู้ในพื้นที ๒ ไร่ (หมูหลุม ปุ๋ยหมัก เผาถ่านทำน้ำส้มควันไม้ การจัดการโรคพืช แปรรูปน้ำฝักข้าว ฯลฯ)
คุณยุทธการอดีตเคยประสบความสำเร็จในการทำงานโรงแรมเมื่อมาบริหารศูนย์ฯเป็นที่ดูงาน แต่มาได้คิดว่า รายได้จากการดูงานมากกว่ารายได้จากเนื้อในที่เป็นจริง จึงเปลี่ยนความคิดมาทำศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรและพลังงานทางเลือกในรูปแบบวางแผนให้เสร็จในหัว แล้วค่อยๆทำ ไม่เป็นหนี้ด้วยการกู้
๑)ลงทุนโซลาเซลล์ ๗ แสนบาท เป็นพลังงานผสมผสานที่สามารถใช้ด้วยกัน สลับขั้วกันได้ Communnity energy lifestyle(มาจากโซลาเซลล์+พลังงานชีวมวล+พลังงานฟอสซิล+พลังงานขยะ) สร้างพลังงานต้นทุน สร้างอาชีพ ภายใต้แนวคิด "นำสิ่งที่มีรอบตัวมาเป็นอาชีพ" ในพื้นที่ ๒ ไร่มีสระน้ำ จึงวางระบบน้ำ ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาเซลล์สูบน้ำผ่านระบบ RO น้ำดีนำไปทำโรงน้ำแข็ง ร้านกาแฟ น้ำอีกส่วนไปสู่แปลงเกษตร ที่ปลูกผักพื้นบ้าน ผักปลอดสารพิษ แล้วทำห้องเย็นส่งผักปลอดภัยเข้าสู่ ๙ รพ. อีกส่วนนำไปทำโรงสร้างสิ่งประดิษฐ์ โรงงานแปรรูปพลาสติกเป็นน้ำมันทดแทน(ปัจจุบันส่งวัดเพื่อเผาศพ) ทำโรงปั้นดิน เพราะรักษ์ นำดินมาปั้นเป็นเม็ดเข้าเตาเผา เม็ดดินที่ได้นำไปใส่ภาชนะหรือแปลงผักแทนดินจริง ที่จะมีอายุการใช้งานนาน และเป็นแหล่งดูดซับจุลินทรีย์ของปุ๋ยต่างๆ
๒)จัดทำระบบบัญชีเล่มเดียว ผ่านรูปแบบบริษัทจำกัด ระบบการเงินสามารถตรวจสอบได้รายวัน ค่าไฟจากไฟกลางแยกมิเตอร์ ระบบรายงานที่โปร่งใสทำให้เกิดความเชื่อมั่น เป้าหมายรายได้ขององค์กร ไม่เน้นตัวเงินแต่เน้นสร้างงานให้กับชุมชน เฉพาะลูกจ้างก็มีรายได้ประจำ ๑๕ คน และเครือข่ายชุมชนอีกราว ๕๐ ครัวเรือน มีรายได้หมุนเวียนเดือนละ ๑.๕ ล้านบาท
๓)ระบบส่งผักปลอดภัย จะมีบริษัทประชารัฐฯจับมือกับศปจ.กาญจนบุรี นำผลผลิตที่ได้มาพักแช่ในห้องเย็นที่แบ่งพื้นที่เป็น ๒ ส่วน ฟากซ้ายเป็นจุดวางผลผลิตจากเครือข่ายเกษตรกรสามารถมาใช้บริการห้องเย็นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริษัทประชารัฐฯจะคัดเลือกผลผลิตตามออร์เดอร์ที่คุยผ่านกลุ่ม line กับ ๙ รพ.และตัดสินใจเคาะกัน ๒๔ ชม.ก่อนส่ง คัดแยกผลผลิตจากชั้นวางฝั่งซ้าย มาไว้ทางชั้นวางฝั่งขวา บรรจุภัณฑ์ แล้วนำส่งโรงพยาบาล โดยบริษัทจะมีรายได้ ๓% ในฐานะคนกลาง แต่จะต้องจ่ายเงินสดให้เกษตรกรทันทีที่คัดกรองผลผลิตเข้าจำหน่าย ในส่วนแปลงการผลิตในบริษัทจะเน้นปลูกหลากหลายมาเสริมผลผลิตของเกษตรกรเพื่อเติมให้เต็มน้ำหนักตามออร์เดอร์เท่านั้น
๔) หลักคิดสำคัญอีกอย่างคือ "ไม่แบกรับความเสี่ยง" ค่อยๆค้นหาอาชีพที่จะสร้างรายได้ ปรากฏว่าโรงน้ำแข็งกับผักเป็นรายได้หลักของบริษัท ต่อมาก็เพิ่มการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก โดยนำไปจำหน่ายให้กับวัดใช้ในการเผาศพ โดยมีข้อตกลงกับชุมชนและวัดคัดแยกขยะพลาสติกมาให้ โดยแลกกับน้ำมันที่จะแบ่งให้ ๒๐% การทำเช่นนี้ทำให้ลดภาระการคัดแยก ดูแลแต่กระบวนการผลิต
Relate topics
- "อบจ.สงขลาเชิงรุกสนับสนุนการคัดกรองสุขภาวะรายคนรองรับสังคมสูงวัยในชุมชนต้นแบบ 5 อปท."
- "ความร่วมมือแผนงานร่วมทุนจังหวัดสงขลา"
- ร่วมสร้างพัทลุงมหานครแห่งความสุข
- ประชุมหารือแนวทางขับเคลื่อนนโยบายรองรับสังคมสูงวัย ชูธง "สุราษฎร์ธานี อยู่เย็น เป็นสุข"
- Kick Off ความร่วมมือท้องถิ่น - สภาองค์กรชุมชนตำบล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิต
- ความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเครือข่ายตำบลสุขภาวะภายใต้โครงการร่วมสร้างเครือข่ายสุขภาวะชุมชนบนฐานอัตลักษณ์ชุมชนอย่างยั่งยืน (สสส.สำนัก3)
- เครื่องมือพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมสู่รูปธรรมระดับพื้นที่สู่การพัฒนา เติมเต็ม ต่อยอด และขยายผล
- เรียนรู้ร่วมกัน สู่ 9 ชุมชนรอบรู้สุขภาพภายใต้โครงการการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านอาหารและสุขภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
- เกษตรสงขลา "จัดกระบวนการเรียนรู้กิจกรรมส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารระดับชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน"
- ก้าวต่อไปของ "ภูเก็ต : สุขภาวะเพื่อชีวิตแห่งอนาคต Phuket : health for Future of Life" และการพัฒนาแผน "มะรุ่ยแห่งความสุข"