ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงข่าวสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2563

  • photo  , 1590x1062 pixel , 123,434 bytes.
  • photo  , 1590x1062 pixel , 131,564 bytes.

ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงข่าวสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2563

ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 หดตัวน้อยลงจากไตรมาสก่อน จากการผ่อนคลาย มาตรการควบคุมโรค COVID-19 ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ เกษตรกร ทำให้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวสูง สอดคล้องกับ การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้น ด้านอุปสงค์ต่างประเทศฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้มูลค่าการส่งออก สินค้ากลับมาขยายตัว และการผลิตในบางหมวดสินค้าปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมหดตัวจากหมวดยางพาราแปรรูปเป็นสำคัญ
สำหรับภาคท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคง หดตัวสูง อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวในประเทศทยอยฟื้นตัว ผลดีจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ โดยราคาน้ำมัน ขายปลีกในประเทศปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าไฟฟ้าและน้ำประปากลับเข้าสู่อัตราปกติ หลังสิ้นสุดมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ

ด้านตลาดแรงงานยังคงเปราะบางจากผลกระทบของ COVID-19

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคใต้มีดังนี้

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน หดตัวน้อยลงจากไตรมาสก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการ ผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองในประเทศเป็นสำคัญ ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงรายได้เกษตรกร ปรับดีขึ้น จึงช่วยพยุงกำลังซื้อได้บางส่วน
ทั้งนี้การใช้จ่ายสินค้าหดตัวน้อยลงในเกือบทุกหมวดการใช้จ่าย โดยเฉพาะหมวดบริการของนักท่องเที่ยวชาวไทย และหมวดยานยนต์ที่ได้รับอานิสงส์จากความต้องการซื้อรถของผู้บริโภคบางกลุ่มที่ยังมีตั้งแต่ช่วง COVID-19 ประกอบกับโรงงานผลิตรถเริ่มกลับมาผลิตและส่งมอบได้ ตามปกติ

นอกจากนี้การใช้จ่ายหมวดสินค้าในชีวิตประจำวันปรับดีขึ้นเช่นกัน

ด้านผลผลิตเกษตร หดตัวจากไตรมาสก่อน โดยผลผลิตยางพารายังคงหดตัว จากฝนที่ตกชุกกว่าปีก่อน และขาดแคลนแรงงานกรีดยาง ประกอบกับผลผลิตปาล์มน้ำมันกลับมาหดตัวจากผลกระทบของภาวะฝนทิ้งช่วง ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ผลผลิตกุ้งขาวกลับมาหดตัวเช่นกัน
จากความผันผวนด้านราคาในช่วงก่อนหน้าที่มี การระบาดของ COVID-19 รุนแรง เกษตรกรจึงลดการลงลูกกุ้ง อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าเกษตรขยายตัวดีใน ทุกสินค้าหลัก ตามปริมาณผลผลิตที่ลดลง ส่งผลให้รายได้เกษตรกรขยายตัวจากไตรมาสก่อน

การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัวสูงจากไตรมาสก่อน ตามรายจ่ายลงทุนที่กลับมาขยายตัวสูง จากการเบิกจ่าย ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน รวมถึงการเบิกจ่ายหมวดเงินอุดหนุนเฉพาะกิจของกรม ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นสำคัญ ขณะที่รายจ่ายประจำหดตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวดี ตามการเบิกจ่ายที่ลดลงในหมวดงบรายจ่ายอื่น ทั้งนี้การใช้จ่ายภาครัฐตลอดปีงบประมาณ 2563 ลดลงจาก ปีงบประมาณ 2562 ร้อยละ 2.7 ตามการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ลดลงเป็นสำคัญ

การลงทุนภาคเอกชน ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยการนำเข้าสินค้าทุนกลับมาขยายตัวเล็กน้อย ตาม การนำเข้าเครื่องจักรของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไม้ยางพาราแปรรูปและถุงมือยาง สอดคล้องกับภาวะการผลิตในอุตสาหกรรมดังกล่าว ด้านการลงทุนในภาคก่อสร้างปรับดีขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากมูลค่าการจำหน่าย เครื่องจักรในประเทศในหมวดเครื่องจักรและวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้าง สอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายปูนที่กลับมา ขยายตัวเช่นเดียวกับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังขยายตัวได้ แม้จะชะลอลง จากความต้องการซื้อที่ยังมีอยู่

มูลค่าการส่งออกสินค้า กลับมาขยายตัวจากไตรมาสก่อน จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค COVID-19 ในต่างประเทศ ส่งผลต่อเนื่องให้การผลิต ภาคอุตสาหกรรมในหลายหมวดปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะไม้ยางพาราแปรรูป และถุงมือยาง
อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมกลับมาหดตัวจากไตรมาสก่อน ตามการผลิตยางพารา แปรรูปที่ลดลงเป็นสำคัญ เนื่องจากมีการเร่งผลิตและส่งสินค้าที่เป็นคำสั่งซื้อตกค้างตั้งแต่ช่วงก่อน COVID-19 ไปแล้วในไตรมาสก่อนหน้า ทั้งน้ำยางข้น และยางผสมสารเคมี

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวสูงต่อเนื่อง เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวในประเทศทยอยฟื้นตัว โดยได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว จากภาครัฐ รวมถึงมีวันหยุดยาวหลายช่วง

เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบน้อยลงอยู่ที่ร้อยละ -1.44 จากราคาน้ำมันขายปลีก ในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าไฟฟ้าและน้ำประปากลับเข้าสู่อัตราปกติ หลังสิ้นสุดมาตรการบรรเทา ค่าครองชีพ ด้านตลาดแรงงานยังคงเปราะบางจากผลกระทบของ COVID-19 ส่วนหนึ่งสะท้อนจากผู้ว่างงาน ในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน

ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2563 เงินฝากคงค้างของสถาบันการเงินขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน  โดยขยายตัวทั้งเงินฝากของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ด้านสินเชื่อคงค้างขยายตัว เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งมาจากสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องของธุรกิจ

ข้อมูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย  (3 พฤศจิกายน 2563)

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาคใต้ สำนักเศรษฐกิจภูมิภาค

โทรศัพท์ 0 7443 4886  E-mail: SRO-EconDiv@bot.or.th

Relate topics