สสส. สานพลังยุวทัศน์-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สร้างเครือข่าย ยุว อสม. 4 จังหวัดต้นแบบ (กทม. เชียงราย อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช)

  • photo  , 1000x524 pixel , 138,871 bytes.
  • photo  , 1000x524 pixel , 138,871 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 70,393 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 101,112 bytes.
  • photo  , 1000x666 pixel , 80,114 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 124,212 bytes.
  • photo  , 1000x751 pixel , 187,803 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 93,898 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 70,615 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 83,288 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 115,504 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 120,759 bytes.
  • photo  , 1000x667 pixel , 79,861 bytes.

สสส. สานพลังยุวทัศน์-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สร้างเครือข่าย ยุว อสม. 4 จังหวัดต้นแบบ

พบเด็กไทย 1 ใน 4 สูบบุหรี่ไฟฟ้า อุบัติเหตุทางถนนในเยาวชนพุ่ง 37.68% ผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่ 50% เป็นวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี ชูเครือข่ายยุว อสม. และอาสาสร้างสุขภาพ (Gen H) ร่วมแก้ปัญหาสุขภาพเชิงรุก ตั้งเป้าขยายสมาชิกเป็น 76,000 คนภายใน 3 ปี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.พ. 2568 สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดแถลงข่าวผลการขับเคลื่อนงานด้านสนับสนุนระบบบริการสุขภาพผ่านกลไกเครือข่าย ยุว อสม. และเครือข่ายอาสาสร้างสุขภาพ (Gen H) นำร่อง 4 จังหวัดต้นแบบ ได้แก่ จ.เชียงราย จ.อุบลราชธานี จ.นครศรีธรรมราช และกรุงเทพมหานคร ร่วมแก้ปัญหาสุขภาพในกลุ่มเด็ก และเยาวชน

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า

ปัจจุบันเด็กและเยาวชน ถูกคุกคามด้วยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ข้อมูลการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย ปี 2566 ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำรวจเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน

25 ปี ทั่วประเทศ 61,688 คน พบว่า 25% สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของเด็กและเยาวชนทั้งหมด ข้อมูลด้านรายจ่ายครัวเรือนไทยจากผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนปี 2566 ซึ่งสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า คนไทยมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าอุปโภคบริโภคถึง 87% รายจ่ายสูงสุด คือ อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ คิดเป็น 35.5% และใช้เงิน 21.5% ของรายได้ไปกับบุหรี่ ทำให้เหลือเงินสำหรับใช้จ่ายที่จำเป็นน้อยลง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในมิติอื่น ๆ

“ข้อมูลจากศูนย์อุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภัยทางถนน (Thai RSC) พบว่าไทยมีผู้บาดเจ็บอุบัติเหตุทางถนน ปี 2567 จำนวน 118,660 คน เป็นเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี 37.68% โดยพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุด คือ รถจักรยานยนต์ 78.08% สำหรับแนวโน้มการพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในเด็กนักเรียน ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคปี 2566 พบว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) รายใหม่ 9,100 คน กว่า 50% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี 4,287 คน สาเหตุเกิดจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน จากสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคหลัก ได้แก่ ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม แผลริมอ่อน กามโรคต่อมน้ำเหลือง ในช่วงปี 2561–2566 พบกลุ่มอายุระหว่าง 15–24 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคซิฟิลิส ที่พบอัตราป่วย 27.9 คน/ประชากรแสนคน ในปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 91.2 คน/ประชากรแสนคน ในปี 2566” นพ.พงศ์เทพ กล่าว

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า สสส. ขับเคลื่อนลดปัญหาภัยสุขภาพในกลุ่มเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า จึงร่วมกับ ยท. หนุนเสริมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายยุวอาสาสมัครสาธารณสุข (ยุว อสม.) และเครือข่ายนักสื่อสารสุขภาพ เพื่อจัดการปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ โดยมีเป้าหมายหนุนเสริมการทำงานร่วมกับกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผลักดันระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจัดตั้งเครือข่ายยุว อาสาสมัครสาธารณสุข (ยุว อสม.) หรือเครือข่ายอาสาสร้างสุขภาพ (Gen H) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกันระหว่างกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนายุวอาสาสมัครสาธารณสุข ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าสามารถเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาเห็นชอบและบังคับใช้ได้ภายในช่วงสิ้นปี 2568

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ปัจจุบันมี อสม. รวมกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ ทำหน้าที่สำคัญคือให้คำปรึกษาปัญหาการรักษาพยาบาล เป็นผู้นำด้านการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตและเปลี่ยนแปลง (Change Agents) พฤติกรรมด้านสุขภาพอนามัยของคนในชุมชน โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในการร่วมมือระหว่าง อสม. กับแพทย์ สถานพยาบาล และชุมชน จึงมีแนวคิดที่ดีให้ “คนรุ่นใหม่” มีบทบาทเป็น “อาสาสร้างสุขภาพและเป็น ยุว อสม.” เพื่อทำหน้าที่ตามหลักคิด 3H ซึ่งประกอบไปด้วย

1.เป็นผู้สื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ (Health Communicator)

2.เป็นผู้สร้างสรรค์เนื้อหาด้านสุขภาพอย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ (Health Creator)

3.เป็นผู้นำทางความคิดเพื่อดูแลสุขภาพของตนเอง (Health Influencer)

โดยปี 2566 ที่ผ่านมามีนักเรียน นักศึกษา มาร่วมเป็นอาสาสมัครแล้วกว่า 20,010 คน และตั้งเป้าภายใน 3 ปีงบประมาณจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 76,000 คน

นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา สสส. ยท. และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผลักดันให้ 4 จังหวัดต้นแบบ จัดตั้งเครือข่ายยุว อสม. และอาสาสร้างสุขภาพในสถานศึกษาหรือชุมชน เกิดแกนนำอาสาสร้างสุขภาพ 400 คน โดยมีผลงานขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ จ.เชียงราย พัฒนาศักยภาพเด็กนักเรียนให้รู้จักช่องทางรับบริการสุขภาวะทางเพศในพื้นที่ของตนเอง การรับบริการถุงยางอนามัย ยาเม็ดคุมกำเนิด การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) รวมถึงพัฒนาความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าให้กับแกนนำนักเรียนทุกอำเภอ จ. อุบลราชธานีและ จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินการพัฒนาศักยภาพแกนนำนักเรียนรวม 25 โรงเรียน ร่วมเฝ้าระวังร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา เพื่อนำส่งข้อมูลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประเมินสุขภาพเบื้องต้น เรียนรู้เรื่องค่าดัชนีมวลกาย (BMI) และช่องทางการรับบริการสุขภาพ เช่น คลินิกเลิกบุหรี่ คลินิกให้คำปรึกษาสุขภาพจิต  กรุงเทพมหานคร ในเขตดินแดง ซึ่งพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าสูงที่สุด ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) 40 หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและชุมชน ร่วมเฝ้าระวังร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา


ขอบคุณข้อมูลจากเพจ  สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย

Relate topics