กสม.และภาคี ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เสริมพลังเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพชีวิตมุสลิมมลายู ณ จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี

  • photo  , 1000x750 pixel , 79,294 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 84,550 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 163,246 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 119,439 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 125,618 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 93,862 bytes.

กสม.และภาคี ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เสริมพลังเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพชีวิตมุสลิมมลายู ณ จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี
. เมื่อวันที่ 8 - 9 พฤษภาคม 2568 ผศ. สุชาติ  เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายสุเรนทร์  ปะดุกา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคใต้ (สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคใต้) ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เสริมพลังเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพชีวิตมุสลิมมลายู ภายใต้แผนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ณ จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี โดยมีกิจกรรมดังนี้

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่สหกรณ์อิสลามซอฮาบะห์ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะ ได้ร่วมรับฟังการนำเสนอผลการดำเนินโครงการย่อยภายใต้การพัฒนาเครือข่ายเปลี่ยนผ่านสุขภาวะมุสลิมมลายูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมให้ความเห็นในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิว่า การดำเนินการของเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความยากลำบาก แต่เห็นว่าเป็นกระบวนการเพื่อการรักษาชีวิต โดยกระบวนการทำให้มนุษย์อยู่รอดปลอดภัย รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาวะที่ดี เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวคิดเทววิทยาในทัศนอิสลามที่สั่งให้มนุษย์เคารพในความศักดิ์สิทธิของชีวิต และที่สำคัญคือ กระบวนการดังกล่าวยังหนุนเสริมการสร้างสันติภาพที่มาจากข้างล่าง (Peace Building from Belong) โดยการสร้างสันติสุขในพื้นที่ต้องเริ่มต้นจากตัวเรา ไปสู่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ และขอเป็นกำลังใจให้ช่วยกันดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งเชิญชวนทุกภาคส่วนให้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกัน

จากนั้น วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะได้เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางความร่วมมือการสร้างเสริมสุขภาวะกลุ่มมุสลิมและการขับเคลื่อนงานภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ร่วมกับนางพาตีเมาะ  สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี โดยเสนอแนะให้การสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมมลายูเป็นการดำเนินการไปพร้อมกันทั้งสามจังหวัดอย่างเป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของประชาชนกลุ่มเฉพาะที่เป็นกลุ่มมุสลิมมลายูในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนขององค์การบริหารศาสนาอิสลาม เช่น คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ซึ่งเป็นกลไกที่มีบทบาทในการสนับสนุนการดำเนินการของผู้ว่าราชการจังหวัดและมีความใกล้ชิดกับชุมชน

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

Relate topics