ตำบลแคร่วมสร้างชุมชนสุขภาวะด้วยสายสัมพันธ์แห่งพหุวัฒนธรรม
"ตำบลแค"
ครูหมัด-อะหมัด หลีขาหรี เป็นลูกหม้อในพื้นที่ตำบลแค อำเภอจะนะ ครั้งหนึ่งเคยถูกประกาศว่าเป็นหมู่บ้านคนเสื้อแดง จนเป็นที่มาของปัญหาสถานการณ์การเมือง “แยกสีเสื้อ” ในชุมชน ครูหมัดเกิดและเติบโตที่นี่ เขาเลือกที่จะใช้วิทยาลัยทุ่งโพธิ์มาเป็นองค์กรพัฒนา ใช้การทำ "นูหรี" ที่เป็นกิจกรรมประเพณีที่เจ้าภาพเลี้ยงอาหารอย่างไม่เป็นทางการของมุสลิม ชักชวนสมาชิกในชุมชนมาหุงข้าวกินกันทุกวันอาทิตย์ พร้อมกับใช้ "บาลายเซาะ" เป็นจุดประสานงาน ถือเป็นงานบุญกลาง
ใช้วิถีชุมชน ฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่เริ่มแตกแยกขัดแย้ง หลอมรวมจิตใจผู้คน ทุกครั้งจะมีหนังสือเชิญถึงตัวให้มาเข้าร่วมกิจกรรม หนังสือเชิญอย่างเป็นทางการทำให้ทุกคนรู้สึกมีเกียรติ และใช้เสียงตามสาย เป็นสื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวน แจ้งรายการอาหารแต่ละมื้อผ่านเสียงตามสายของหมู่บ้านปลุกเร้าสร้างความเป็นกันเอง โดยไม่จ้างทำ แต่ให้ทุกคนมาทำอาหารร่วมกัน
ประเด็นในการพูดคุยแต่ละครั้งจะเปลี่ยนไป ตามสถานการณ์ ไม่ถามคำถามที่ทำให้ชาวบ้านตอบยากๆ เช่น แทนที่จะถามว่าปัญหาคืออะไร แต่จะถามว่าอะไรที่ทำให้บ้านเราน่าอยู่ อะไรที่ทำให้บ้านเราไม่น่าอยู่ นำข้อมูลมาจัดทำหลักสูตร นำทุนที่มีมาแก้ปัญหา เช่น ปัญหาเรื่องยาเสพติด ปัญหาการจัดการขยะ ปัญหาเรื่องความขัดแย้ง เกิดการรวมกัน เมื่อมองข้ามปัญหาตัวบุคคลทำให้เห็นบรรยากาศคนเสื้อเหลืองเสื้อแดงมากินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกัน
ต่อมาได้ยกระดับการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพที่นำความสำเร็จจากระดับหมู่บ้านมาขยายเป็นตำบล จัดทำธรรมนูญตำบลน่าอยู่ อาศัยคณะทำงานที่ทำงานต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนายกอบต กำนันผู้ใหญ่บ้าน รพ.สต. โดยหยิบยกประเด็นการจัดการขยะขึ้นมาดำเนินการ วันประกาศใช้ธรรมนูญต่อหน้าเวทีประชาคมก็มีการมอบรางวัลครัวเรือนต้นแบบที่มีการจัดการขยะ และรักษาความสะอาดหน้าบ้านน่ามอง ในการทำงานพัฒนาตำบลแคเดินไปที่ละก้าวและเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ ในพื้นที่ได้มากขึ้น ตอนนี้มีเรื่องของการจัดการขยะแลกบุญในมัสยิด สิ่งที่เห็นชัดมากที่สุดคือ การคัดแยกขยะอันตราย และการจัดการขยะในงานประเพณี
แล้วก็มีโครงการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส ครูหมัดใช้”ส้มจุก” เป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพชีวิตและการฟื้นฟูสวนส้มจุกสร้างรายได้
ตำบลแคเป็นชุมชนพหุวัฒนธรรม มีการทำงานร่วมกันทั้งพุทธและอิสลาม ครูหมัดยกตัวอย่างโครงการที่ทำร่วมกับสมาคมมุสสลิมฯ(สสม.) สามารถทำให้ชุมชนไทยพุทธและมุสลิม ชวนคนเลิกบุหรี่ได้ในหนึ่งปี ครูหมัดเล่าว่าจุดที่เป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญคือ ความรู้เรื่องบุหรี่มือ ๓ (หมายถึงผลกระทบที่จะเกิดกับลูก หลาน หรือแม้กระทั่งกลิ่นที่ติดตามเสื้อผ้า ม่าน ฯลฯ) เห็นผลคือ มีการเลิกบุหรี่กันค่อนข้างมาก ใขณะที่มาตรการติดสติกเกอร์ในบ้านครอบครัวที่ไม่สูบบุหรี่ ยังส่งผลให้เกิดความเกรงใจ ทำให้ลดการสูบบุหรี่ในงานบุญที่บ้านได้อีกด้วย
ชาคริต โภชะเรือง เล่าเรื่อง
Relate topics
- สช.ผนึกกำลัง กขป. ทั่วประเทศเคลื่อนงานพัฒนารองรับสังคมสูงวัย มุ่งวางทิศชี้ทาง บูรณาการร่วม-เน้นทำบนฐานข้อมูลพื้นที่เป็นหลัก
- กขป.เขต ๑๒ จัดประชุมสร้างความร่วมมือการดำเนินงานปี ๒๕๖๘
- พมจ.กระบี่ ประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน ร่วมออกแบบแผนปฏิบัติการปี 68 มุ่งสู่กระบี่อยู่เย็นเป็นสุข
- สสว.11 ชวนใช้ข้อมูลครัวเรือน(กลุ่มเสี่ยง)จากสมุดพกครอบครัวอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขับเคลื่อนเชิงนโยบายอย่างพุ่งเป้า
- เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ชู “ข้อเสนอ 3 ข้อ” ปกป้องเด็กเยาวชนจาก “ภัยบุหรี่ไฟฟ้า” ในเวทีระดมความเห็นภาคีปฏิบัติการพื้นที่ “ภาคใต้”
- 17 ประเด็นที่เห็นจาก NHA17
- "ประชุม กขป.เขต 12 ทีมเล็ก"
- การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระบบและกลไกการจัดการพื้นที่ตำบลขอนหาด (ภาคีเครือข่าย สสส.)
- "พัฒนาศักยภาพทีมพี่เลี้ยงและกองเลขาแผนงานร่วมทุนฯสงขลา"
- ประชุมวิชาการระดับชาติ ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พ.ศ.2567 “การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P): กุญแจสู่ความสำเร็จของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า”