สสส. หนุนพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิสู่องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ
มูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) ร่วมกับ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. จัดประชุมวิชาการระดับประเทศ แลกเปลี่ยนเรียนรู้การเป็นองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพปฐมภูมิ HLO “The 1st Thailand Primary Care Health Literacy Conference 2023 10 Components 13 steps To Health Literate Organization (HLO)”
ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานกรรมการมูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และที่ปรึกษามูลนิธิฯ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. ร่วมเปิดงาน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสถานีอนามัยต้นแบบองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถขยายผลยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้าน HLO
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. ได้ขึ้นกล่าวในการเสวนาหัวข้อ “ทิศทางการนำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การพัฒนาคุณภาพระบบสุขภาพปฐมภูมิ สู่องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ 10 องค์ประกอบ 13 ขั้นตอน เพื่อประชาชนสุขภาพอย่างยั่งยืน” ซึ่ง สสส. สนับสนุนและผลักดันให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และสถานีอนามัยที่ได้รับพระราชทานนาม พัฒนาและขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health literate organization : HLO) โดยมุ่งเน้นการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนและชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งปัจจุบันมีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมคือ การพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 16 แห่ง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ
ส่วนการควบคุมและป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) นั้น นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และสถานีอนามัยที่ได้รับพระราชทานนาม ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ ดังนี้
1.ผู้ให้บริการควรปรับความคิด โดยมีข้อมูลเป็นฐานในการทำงาน
2.ผู้มารับบริการสามารถสร้างองค์ความรู้ให้กับตนเอง
3.รูปแบบเครือข่ายจะทำหน้าที่เป็นทีมสุขภาพเชิงรุก ช่วยให้ประชาชนเกิดความรู้ และเน้นการป้องกันปัจจัยเสี่ยงโรค NCDs ให้กลุ่มเสี่ยงมีสุขภาพที่ดีขึ้น ส่งเสริมชุมชนรอบรู้ด้านสุขภาพ
ทั้งนี้จากการถอดบทเรียน พบว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนาสู่องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ เกิดจากการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์กร รวมถึงข้อมูลและสารสนเทศมีส่วนสำคัญต่อการวางกลยุทธ์และกำหนดทิศทาง และแนวคิดเชิงระบบจะช่วยให้เกิดการพัฒนายกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ
ขอบคุณข้อมุลจากเพจ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ - สำนัก 7 สสส.
Relate topics
- ก้าวกันต่อ“การพัฒนาคุณภาพชีวิตรองรับสังคมสูงวัยจังหวัดตรัง” และงานพัฒนาฐานข้อมูลผู้สูงอายุและแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตรายบุคคล (Trangcare.net)
- สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนระดับอำเภอ ทั้งระโนด สทิงพระ และสิงหนคร สร้างคุณค่าตาลโตนด การประเมินมูลค่าไม้เพื่อขายคาร์บอนเครดิตจากต้นตาลโตนด
- "Quick Win บุหรี่และปัจจัยเสี่ยง จ.ยะลา"
- "การประชุมคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชนเขต ๑๒ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖"
- อนุกรรมการประเด็นเด็กและเยาวชน กขป.11 ร่วมขับเคลื่อนการรณรงค์การป้องกันการฆ่าตัวตาย ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ประชุมทีมพี่เลี้ยงร่วมกับคณะทํางานโครงการแผนงานร่วมทุนสนับสนุนการสร้างสุขภาวะชุมชนประมงพื้นบ้านใน 5 จังหวัดชายฝั่งทะเล
- ทบทวนเพื่อก้าวต่อ "ธรรมนูญพื้นที่ภาคใต้"
- "ประชุมทีม กขป.เขต 12 ชุดเล็ก"
- จังหวะก้าว "สงขลามหานครเกษตรอินทรีย์"
- โครงการคาราวานโรงเรียนปลอดภัย “รู้ รอด และปลอดภัย” ชวนเรียนรู้ภัยคุกคาม 9 ประเภท