สสส. หนุนพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิสู่องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ

  • photo  , 1000x1000 pixel , 150,505 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 149,489 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 148,401 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 124,781 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 104,808 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 164,572 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 101,337 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 88,855 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 175,727 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 94,687 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 196,181 bytes.
  • photo  , 1000x1000 pixel , 105,720 bytes.

มูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) ร่วมกับ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. จัดประชุมวิชาการระดับประเทศ แลกเปลี่ยนเรียนรู้การเป็นองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพปฐมภูมิ HLO  “The 1st Thailand Primary Care Health Literacy Conference 2023 10 Components 13 steps To Health Literate Organization (HLO)”

ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานกรรมการมูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และที่ปรึกษามูลนิธิฯ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. ร่วมเปิดงาน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสถานีอนามัยต้นแบบองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถขยายผลยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้าน HLO

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. ได้ขึ้นกล่าวในการเสวนาหัวข้อ “ทิศทางการนำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การพัฒนาคุณภาพระบบสุขภาพปฐมภูมิ สู่องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ 10 องค์ประกอบ 13 ขั้นตอน เพื่อประชาชนสุขภาพอย่างยั่งยืน” ซึ่ง สสส. สนับสนุนและผลักดันให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และสถานีอนามัยที่ได้รับพระราชทานนาม พัฒนาและขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health literate organization : HLO) โดยมุ่งเน้นการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนและชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งปัจจุบันมีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมคือ การพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 16 แห่ง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ

ส่วนการควบคุมและป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) นั้น นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และสถานีอนามัยที่ได้รับพระราชทานนาม ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ ดังนี้

1.ผู้ให้บริการควรปรับความคิด โดยมีข้อมูลเป็นฐานในการทำงาน

2.ผู้มารับบริการสามารถสร้างองค์ความรู้ให้กับตนเอง

3.รูปแบบเครือข่ายจะทำหน้าที่เป็นทีมสุขภาพเชิงรุก ช่วยให้ประชาชนเกิดความรู้ และเน้นการป้องกันปัจจัยเสี่ยงโรค NCDs ให้กลุ่มเสี่ยงมีสุขภาพที่ดีขึ้น ส่งเสริมชุมชนรอบรู้ด้านสุขภาพ

ทั้งนี้จากการถอดบทเรียน พบว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนาสู่องค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ เกิดจากการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์กร รวมถึงข้อมูลและสารสนเทศมีส่วนสำคัญต่อการวางกลยุทธ์และกำหนดทิศทาง และแนวคิดเชิงระบบจะช่วยให้เกิดการพัฒนายกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ

ขอบคุณข้อมุลจากเพจ  สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ - สำนัก 7 สสส.

Relate topics