พลิกโฉมความคิดจากโรคสู่ "สุขภาวะ"

  • photo  , 1440x960 pixel , 171,347 bytes.
  • photo  , 1440x962 pixel , 71,698 bytes.
  • photo  , 1440x962 pixel , 85,149 bytes.
  • photo  , 962x1440 pixel , 85,362 bytes.
  • photo  , 1440x962 pixel , 64,833 bytes.
  • photo  , 1000x564 pixel , 121,616 bytes.
  • photo  , 2048x1152 pixel , 152,055 bytes.
  • photo  , 1000x750 pixel , 127,838 bytes.
  • photo  , 1477x1108 pixel , 136,119 bytes.
  • photo  , 1477x1108 pixel , 147,039 bytes.
  • photo  , 2048x1152 pixel , 192,947 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 121,086 bytes.
  • photo  , 1000x564 pixel , 106,146 bytes.
  • photo  , 1000x564 pixel , 98,745 bytes.
  • photo  , 1079x720 pixel , 54,716 bytes.
  • photo  , 1888x1416 pixel , 153,585 bytes.
  • photo  , 922x2048 pixel , 104,233 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 102,331 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 78,800 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 137,701 bytes.

พลิกโฉมความคิดจากโรคสู่ "สุขภาวะ"

กองโรคไม่ติดต่อชวน สช. สสจ. อบจ. สคล.เขต และสมัชชาจังหวัด 4 ภาค 8 จังหวัด

ประชุมระดมสมองบูรณาการโครงการ/กิจกรรมพัฒนาสุขภาพระดับพื้นที่ อบจ. ยุทธศาสตร์ที่ 7 การควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับพื้นที่ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
เพื่อบูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อของพื้นที่ จัดทำโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายระดับพื้นที่เพื่อสนับสนุนการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อของจังหวัด ระยะถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้องค์การปกครองส่วนจังหวัด

เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางวิชาการด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อให้กับหน่วยงานและบุคลากรที่ถ่ายโอนไปปฏิบัติหน้าที่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งเครือข่ายระดับจังหวัดและระดับเขตสุขภาพเพื่อสามารถจัดทำแผนสุขภาพ/โครงการด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับพื้นที่แบบมีส่วนร่วมจากภาคีภาคส่วนต่างๆ ผ่านคณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ (กสพ.) มีความเข้าใจมาตรการและกลยุทธ์การป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเป็นอย่างดี

นพ. กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าว การทำงานเชื่อมโยงอปท.โดยมีฐานสำคัญ อบต. เทศบาล เน้นสร้างความร่วมมือบูรณาการโดยมีสมัชชาจังหวัดเป็นพื้นที่กลางจัดทำนโยบายและเชื่อมประสาน ขอบเขตอำนาจ ในการดึงพลังภาคส่วนต่างๆ ทำงานร่วมกัน

รศ.ดร.วิพุธ อ่องสกุล  คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าว ถ้าหน่วยงานสามารร่วมหาโจทย์และคำตอบของชุมชนได้ นั่นคือ วิกฤตปัญหาช่องว่างของชุมชน และ ความต้องการที่ชุมชนอยากเห็นและอยากเป็น โดยกำหนดวิธีทำงานจาก 4W1H การทำให้แผนงาน/โครงการจะสามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ได้

นายชาญเชาวน์  ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม  กล่าว วัตถุประสงค์การถ่ายโอนที่แท้จริง การรับหน่วยโอนบริการมาขับเคลื่อนเพื่อสร้างระบบสุขภาพในปฐมภูมิปรับเปลี่ยนวิธีคิดของประชาชน  อการปรับบทบาท อบจ.มาเป็น Facilitator เปิดพื้นที่ให้หน่วยงานและภาคีที่มีบทบาทต่างๆ เข้ามาร่วมดำเนินงาน คือผู้ที่ช่วยให้กลุ่มคนสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยเทคนิคการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ออกแบบวางแผน และเลือกเครื่องมือต่างๆ ในการช่วยให้กลุ่มคนเหล่านั้นสามารถค้นหาคำตอบ ได้ด้วยตัวเอง ในเรื่อง ระบบสุขภาพคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่ทำงานร่วมกันหลายรูปแบบ อาทิ ศูนย์สร้างสุข Health Station กติกาชุมชน กระบวนการธรรมนูญสามารถสร้าง commitment ที่สร้างเสริมสุขภาพชีวิตกันเองได้ และมองเห็นภาพร่วมตระกูลส.เป็นการบูราณาการทำงานแบบ Plannership การสร้างOwnership ทำให้ภาคีในพื้นที่เป็นระบบสุขภาพชุมชนร่วมกัน

นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กล่าว โรคไม่ติดต่อเรื้อรังไม่ใช่โรคทางกายหรือพฤติกรรม แต่เป็นโรคของสังคม อาจเกิดจากขาดความรอบรู้ที่ไม่รู้หรือรู้ไม่เท่าทันสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดโรค การแก้ไขได้ต้องเปลี่ยน Mindset ทั้งในระบบสุขภาวะในพื้นที่และสังคม ร่วมทั้งการทำงานเชื่อมโยงทุกมิติโดยเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจและสังคม การขับเคลื่อน NCD ด้วยเครือข่ายความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ

นพ.ศราวุธ สันตินันตรักษ์ สสจ.หนองบัวลำภู ผลลัพธ์ใหม่ต้องไม่ใช้วิธีการทำงานเดิม แต่ต้องใช้วิธีการใหม่ที่ถูกต้องด้วย เช่น การหาทุนทางสังคมในพื้นที่ทุกระดับแล้วสานพลังทุนทางสังคมผ่านกระบวนการสุนทรียสนทนา เป็นการทำงานร่วมเพื่อสร้างความตระหนักและความเป็นเจ้าของร่วมกันจะทำให้เกิดความร่วมมือที่ยั่งยืน

ช่วงท้ายมีการนำเสนอแผนงานของทั้ง 8 จังหวัด โดย

ได้แผนหรือโครงการด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อที่ดำเนินงานในปี 2567 โดยมีการออกแบบการทำงาน Timeline ของแต่ละจังหวัด ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้และความเข้าใจและมีแนวคิดการสร้างความร่วมมือเครือข่ายในการจัดทำแผนหรือโครงการด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ ปี 2567 ของจังหวัดที่มีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพไปองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)

Next step ระยะต่อไป เป็นระยะที่ 3 ของโครงการ ประมาณเดือนธันวาคม 2566 กองโรคไม่ติดต่อ จะจัดประชุมแลกเปลี่ยนการดำเนินงาน 8 จังหวัด (ผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน ปัญหา-อุปสรรค กลไกการดำเนินงาน แหล่งทรัพยากร สิ่งสนับสนุนโครงการฯ เป็นต้น) และข้อเสนอแนะการพัฒนาในระยะต่อไป ระยะที่ 4 ผู้รับผิดชอบโครงการ  กลุ่มพัฒนาความร่วมมือในประเทศและระหว่างประเทศ กองโรคไม่ติดต่อ

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ สช. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ


"เติมสุขสู่ชุมชน จัดทำแผนสุขภาพรายคนรับมือ NCDเชิงรุก"

เมื่อวันที่ 27-29 กันยายน 2566 เป็นตัวแทนสมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลา ร่วมกับทีมงานกองสาธารณสุข อบจ.สงขลา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพจังหวัดด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ ณ โรมแรมอมารี ดอนเมือง กทม.

กิจกรรมแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การบรรยายให้ความรู้ จุดประกายเพื่อให้เห็นมิติใหม่ของการทำงานร่วมกันแบบหุ้นส่วนเพื่อรับมือโรคไม่ติดต่อที่กำลังเป็นภัยคุกคาม จากพหุภาคีที่มากกว่าระบบบริการของสาธารณสุข

"แผนงาน/โครงการจะบรรลุผลสัมฤทธิ์ได้อย่างไร" โดย รศ.ดร.วิพุธ อ่องสกุล บรรยายกลยุทธ์ การวิเคราะห์ปัจจัยอดีต(ความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนอง) ปัจจุบัน(นำมาสู่ประเด็นปัญหา) อนาคต(ความต้องการอันเกิดจากภาวะวิกฤต) เพื่อเป็นฐานกำหนดประเด็นแผนพัฒนา

"กลวิธีการสร้างการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานจากภาคประชาชนและชุมชน" นายชาญเชาวน์ ไชยากิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ถอดบทเรียนประสบการณ์การมีส่วนร่วมในการปฎิรูประบบยุติธรรมและระบบสุขภาพที่จำเป็นต้องข้ามกรอบคิดเดิม ทำงานแบบพหุภาคีและสหวิทยา นำเสนอกรอบคิด การเป็นแผนบูรณาการร่วมกับการถ่ายโอนภารกิจ หลักการกระจายอำนาจความต้องการและศักยภาพประชาชน ระบบสาธารณสุขมูลฐาน ระบบสุขภาพปฐมภูมิ การบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งแบบหุ้นส่วน

"เครื่องมือจัดการข้อมูลสุขภาพในพื้นที่" และ "การพัฒนาคุณภาพบริการงานปฐมภูมิ" โดยนพ.อรรถเกียรติ กาญจนพิบูลวงศ์ นางสาวณัฐธิวรรณ พันธ์มุง กองโรคไม่ติดต่อ

"การขับเคลื่อน NCD ด้วยเครือข่ายความร่วมมือ" นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล สนง.คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

และการประชุมกลุ่มเพื่อจัดทำแผนงานโครงการ โดยนำโครงการที่จะดำเนินการในปี 2567 ของอบจ.ที่เกี่ยวข้องกับงาน NCD มาเป็นฐานและบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ในส่วนของสงขลา เสนอโครงการเติมสุขสู่ชุมชนสงขลา โดยเน้นสร้างต้นแบบอำเภอควนเนียง

มีวัตถุประสงค์

1.พัฒนาระบบบริการควบคุมโรคไม่ติดต่อในพื้นที่จังหวัดสงขลา

2.ส่งเสริมความรอบรู้ด้านโรคไม่ติดต่อของประชาชน

3.สร้างนวตกรรมระบบบริการปฐมภูมิแบบมีส่วนร่วม

นำยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการประกอบด้วย

1.การพัฒนาระบบบริการสาธารณะ

1)พัฒนาระบบบริการด้านสุขภาพ มีการคัดกรองกลุ่มเป้าหมาย(ร่วมกับภาคีด้านสังคม/คุณภาพชีวิตอื่นๆ) นำไปสู่การรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ มีการพัฒนาระบบการส่งต่อ และการแพทย์ฉุกเฉิน ดำเนินการร่วมกับศูนย์สร้างสุขชุมชน โพลีคลีนิค ธนาคารยืมคืนกายอุปกรณ์ ธนาคาร 1,000 เตียง การสร้างเสริมสุขภาพ บนฐานสภาพปัญหาในปัจจุบัน มีการทำแผนสุขภาพรายบุคคล ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี

2)พัฒนาระบบบริการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ครอบคลุมมิติความเป็นอยู่สภาพแวดล้อมในครัวเรือน การศึกษา การสร้างรายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน การคุ้มครองทางสังคมและบริการภาครัฐ ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิและบริการพื้นฐานที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต

ยุทธศาสตร์ 2 การจัดการความรู้ เทคโนโลยีและนวตกรรม

1)การพัฒนาคน บุคลากร สนับสนุนระบบบริการให้มีคุณภาพ ทั้งในส่วนของแพทย์ พยาบาล อสม. แพทย์แผนไทย cg และแก้ปัญหาบุคลากรทางวิชาชีพที่ขาดแคลน

2)การวิจัย การสร้างนวตกรรม นำทุนทางสังคมต่อยอดแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ

ยุทธศาสตร์ 3.การพัฒนาระบบบริหารจัดการและการติดตามประเมินผล

1)มีการขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการระดับอำเภอ ประสานทำงานร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตอำเภอควนเนียงอย่างใกล้ชิด

2)พัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศ ใช้ระบบข้อมูลกลาง www.khonsongkhla.comในการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคล บูรณาการงานทุกภาคส่วน

3)การจัดทำแผนปฏิบัติการ กำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันของแต่ละหน่วยงานให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน ตลอดจนสร้างข้อตกลงความร่วมมือ และสื่อสารกับประชาชน

4)การติดตามประเมินผล

ในส่วนของมูลนิธิชุมชนสงขลาจะร่วมในการจัดทำแผนสุขภาพชุมชน(เริ่มด้วยการพัฒนากลไก การทำแผนที่เดินดิน การวิเคราะห์องค์กรชุมชน การวิเคราะห์ระบบสุขภาพชุมชน) วิเคราะห์ปัจจัยกำหนดที่เกี่ยวข้องกับ NCD นำไปสู่การกำหนดธรรมนูญสุขภาพชุมชน ในส่วนกลุ่มประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยเมื่อผ่านการคัดกรองแล้วจะทำแผนสุขภาพรายคนในระบบกลุ่มปิดของ iMed@home ซึ่งจะเป็นนวตกรรมใหม่ของระบบสุขภาพชุมชน ใช้ระบบเยี่ยมบ้านติดตามผล รายงานผลต่อไป

โดยระบบดังกล่าวจะพัฒนานำร่องที่ชุมชนแหลมสนอ่อน ทน.สงขลา และขยายมาทำกับอำเภอควนเนียง ก่อนเข้าสู่สมัชชาพลเมืองจังหวัดสงขลาขยายผลต่อไป

ชาคริต โภชะเรือง บันทึกเรื่องราว

Relate topics