"ประชุมเตรียมสมัชชากำลังคนสุขภาพเพื่อรองรับงานปฐมภูมิและสังคมสูงวัยสงขลา"

  • photo  , 1280x960 pixel , 120,455 bytes.
  • photo  , 1000x564 pixel , 146,667 bytes.
  • photo  , 1000x564 pixel , 129,407 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 116,362 bytes.
  • photo  , 1706x960 pixel , 201,285 bytes.
  • photo  , 1706x960 pixel , 182,965 bytes.
  • photo  , 1706x960 pixel , 183,511 bytes.
  • photo  , 1706x960 pixel , 172,648 bytes.
  • photo  , 1000x564 pixel , 118,265 bytes.
  • photo  , 1000x563 pixel , 123,390 bytes.
  • photo  , 1280x960 pixel , 121,730 bytes.
  • photo  , 1706x960 pixel , 193,907 bytes.
  • photo  , 1477x1108 pixel , 137,093 bytes.
  • photo  , 1280x960 pixel , 120,403 bytes.

"ประชุมเตรียมสมัชชากำลังคนสุขภาพเพื่อรองรับงานปฐมภูมิและสังคมสูงวัยสงขลา"

วันที่ 7กันยายน 2567 คณะทำงานจังหวัด จัดประชุมเตรียมสมัชชากำลังคนสุขภาพเพื่อรองรับงานปฐมภูมิและสังคมสูงวัยสงขลา ร่วมกันกำหนดเป้าหมายและร่างข้อเสนอเชิงนโยบาย ณ ห้องประชุมชั้น3 ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา

โดยมีผู้เข้าร่วม onsite 29 คน ประกอบด้วยคณะแพทย์ศาสตร์/พยาบาลศาสตร์/แพทย์แผนไทย ม.อ. นักศึกษาคณะแพทย์ฯ สมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลา กองสาธารณสุขอบจ.สงขลา พมจ. สสจ. รพ.สงขลา รพ.สมเด็จฯ รพ.หาดใหญ่ สมาคมกิจกรรมบำบัด สภาการพยาบาล สภาแพทย์แผนไทย รร.หาดใหญ่เวชกรรมไทย ชีวาสุข ทน.หาดใหญ่ และonline จำนวน 10 คน ประกอบด้วยสนง.คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มูลนิธิพัฒนาการศึกษาบุคลากรสุขภาพแห่งชาติ หน่วยงานในจังหวัดสงขลา

ทั้งนี้สภาพปัญหา และบริบททางสังคม ช่องว่างที่สำคัญ ประกอบทิศทางและขอบเขตของประเด็นในระดับพื้นที่จังหวัดสงขลา ทีมวิชาการสรุปข้อมูลสำคัญดังนี้

1.ปี 2566 ประชากรจังหวัดสงขลามีทั้งสิ้น 1,413,130 คน เกือบ 50% อยู่ในอำเภอเมือง หาดใหญ่ และสะเดา จำแนกเป็นประชากรวัยเด็ก (0 -14 ปี) 18.59% วัยแรงงาน (15 -59 ปี) 63.98% ผู้สูงอายุ 17.43% ที่สำคัญ มีอัตราส่วนพึ่งพิง 56.29%

2.อายุขัยเฉลี่ยและอายุเฉลี่ยการมีสุขภาพดี (ปี 2561 – 2565)  มีแนวโน้มลดลง 2561 อายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด  77.7 ปี และมีอายุเฉลี่ยการมีสุขภาพดี 71.1 ปี

ปี 2565 อายุขัยเฉลี่ยประชากรจังหวัดสงขลา = 75.99 ปี และอายุเฉลี่ยการมีสุขภาพดีประชากรจังหวัดสงขลา = 69.59 ปี

สาเหตุการตาย 5 อันดับแรกในปี 2566 คือ มะเร็ง ปวดบวม หัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง การติดเชื้อในกระแสเลือด

ปี 2566 มีจำนวนคนเปราะบาง 316,453 คน เป็นคนยากจน 17,477 คน ครัวเรือนเปราะบาง 116,008 ครัว มีผู้สูงอายุ จำนวน 248,576 คน ได้รับเบี้ย ยังชีพผู้สูงอายุ 209,400 คน เป็นผู้สูงอายุติดเตียง (ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้) จำนวน 1,109 คน ผู้สูงอายุติดบ้าน 5,507 คน ผู้สูงอายุติดสังคม 169,099 คน  มีเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษา ร้อยละ 12.1 มีเด็กนักเรียนยากจน 10,442 คน ยากจนพิเศษ 23,353 คน

ปี 2565 มีแรงงานนอกระบบ ร้อยละ 56.2 มีชุมชนมีรายได้น้อย 49 แห่ง ปี 2564มีผู้สูงอายุอยู่คนเดียวร้อยละ 7.4 มีคนเร่ร่อนไร้ที่อยู๋ 46 คน(มากที่สุดในเขต 12)

3.บุคลากรทางการแพทย์ ปี 2566 มีจำนวน 372 คน(1ต่อ 3,847 คน) ทันตแพทย์ 116 (1: 12,338) เภสัชกร 181 (1 : 7,907) พยาบาล 2060 คน (1: 694) จำนวนเตียง 2499 (1:572) จำนวนบุคลากรทางสาธารณสุขมีความกระจุกตัวในเขตเมือง ในส่วนอัตรากำลัง ปี 2565 พบว่าด้านวิชาชีพเกินอัตรากำลังขั้นต่ำ ด้านวิชาชีพอื่นได้แก่ นักกายภาพ แพทย์แผนไทย นักวิชาการทันตสาธารณสุข นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีการแพทย์ และนักโภชนาการต่ำกว่ากรอบอัตราขั้นต่ำ

4.ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่จะมีผลต่อระบบสุขภาพระดับจังหวัด ประกอบด้วย 1)พฤติกรรมสุขภาพของประชาชน เสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ การดื่มสุรา สูบบุหรี่ รับประทานอาหารที่มีเกลือและโซเดียมสูง ไม่ออกกำลังกาย ภาวะเครียดและใช้ยาเสพติด 2)ด้านสภาพแวดล้อม เกิดจากการขยายตัวของเมือง การเคลื่อนย้ายประชากร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 3)โครงสร้างประชากร วัยเด็กลดลง ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น อัตตราส่วนวัยพึ่งพิงเพิ่มมากขึ้น

สำหรับทุนทางสังคมสำคัญในจังหวัดสงขลา ที่สามารถนำมาต่อยอดขยายผลร่วมกัน

1.งานสาธารณสุขขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่มีงานการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 และบุคลากรอาสาสมัครกู้ชีพ 1200 คนและรถกู้ชีพ 79 คัน งานถ่ายโอนรพ.สต.จำนวน 49 แห่งและมีคณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่จังหวัดควบคุมกำกับ งานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์(ร่วมกับสปสช.)ที่มีศูนย์สร้างสุขชุมชนกระจายอยู่ในพื้นที่ 16-19 แห่ง มีทีมผู้ช่วยนักกายภาพ มีศูนย์ซ่อมกายอุปกรณ์ มีแพทย์แผนไทย แผนงานร่วมทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาวะในพื้นที่(ร่วมกับสสส.) และกำลังพัฒนาระบบข้อมูลกลางเพื่อเชื่อมโยงการทำงานกับเครือข่าย 11 หน่วยงาน www.khonsongkhla.com การพัฒนา center ระบบขนส่งเพื่อรับผู้ป่วยไปพบแพทย์ center พัฒนามาตรฐานผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน(CG)

2.ศูนย์ชีวาสุข ทน.หาดใหญ่ พัฒนาไปสู่เวลเนส center เน้นสร้างเสริมสุขภาพบนฐานภมิปัญญาไทยโดยมีนักจัดการสุขภาพ และแพทย์เวชศาสตร์วิถีชีวิต นำแนวทางวิเคราะห์ 6 ปัจจัยมาปรับพฤติกรรมลดโรค กำลังพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อสร้างรายได้

3.การทำแผนรองรับสังคมสูงวัยและงานปฐมภูมิ โดยใช้แบบคัดกรองรายบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่น iMed@home ของมูลนิธิชุมชนสงขลาเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง สร้างความรอบรู้ ร่วมจัดทำแผนสุขภาวะชุมชนและกติกาชุมชน

4.สถานชีวาภิบาลต้นแบบ บ้านเอื้อบุญอุ่นรัก รพ.หาดใหญ่และชุมชนกรุณา สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติตำบลพะตง ในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ที่ประชุมร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถกแถลง มีข้อสรุปดังนี้

1.(ร่าง)เป้าหมายระบบสุขภาพปฐมภูมิและรองรับสังคมสูงวัยที่ต้องการ :

1)ประชาชนระดับบุคคลมีความตระหนักรู้มีความสามารถในการดูแลสุขภาพตนเองได้

2)ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม

3) ระบบบริการลดความซ้ำซ้อน ทำงานสอดประสานเป็นสหวิชาชีพ มีมาตรฐาน สามารถบริการอย่างทั่วถึง ทุกที่ ยั่งยืน

2.(ร่าง)ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลา

ทั้งนี้เป็นไปทิศทางที่สอดคล้องกับ(ร่าง)ข้อเสนอสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่กำลังเข้าสู่การรับฟังความเห็น ประกอบด้วยกรอบทิศทางเชิงนโยบาย 4 ข้อดังนี้

1.พัฒนาศักยภาพประชาชนอย่างจริงจัง สร้างการรับรู้ใหม่ในสังคมเกี่ยวกับคุณค่าและบทบาทในการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชน ให้เกิดความเข้าใจ เกิดความตระหนัก มีความมั่นใจและมีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวในเบื้องต้นได้ ลดการพึ่งพาระบบบริการสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกมีคุณค่าต่อการดูแลสุขภาพตนเองและต่อระบบสุขภาพ ให้ความสำคัญกับกลุ่มที่อยู่ในสภาวะเปราะบางเพื่อเปลี่ยนเป็นต้นทุนและพลังของสังคม

2.พลิกโฉมการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพแนวใหม่ ให้มีความเข้าใจเรื่องสุขภาวะ มีจิตสาธารณะ มีความเป็นมืออาชีพ สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำงานเป็นทีมสุขภาพ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (change agent) เพื่อมุ่งสู่ระบบสุขภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืน สามารถตอบโจทย์ระบบสขภาพปฐมภูมิ สังคมสูงวัยและตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินรวมถึงความท้าทายใหม่ได้ด้วยรูปแบบการจัดการศึกษาที่หลากหลาย การบูรณาการระบบการศึกษา การเรียนรู้และการทำงานร่วมกัน แบบสหวิชาชีพและสหกิจศึกษา

3.ส่งเสริมการจ้างงานกำลังคนด้านสุขภาพที่มีให้เต็มศักยภาพ ในรูปแบบการจ้างที่หลากหลาย เพื่อแก้ไขปัญหาการกระจายตัวของบุคลากรสุขภาพ รวมถึงการจ้างงานกำลังคนนอกภาคการสาธารณสุขที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจด้วย เช่น การจ้างดูแลผู้ป่วย ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาส

4.สร้างความสามารถแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยประชากรที่มีสุขภาพและผลิตภาพ กำลังคนด้านสุขภาพและการบริการสุขภาพ ทั้งการวิจัยพัฒนานวตกรรมและเทคโนโลยีทางสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ทางสุขภาพ สมุนไพร วัคซีน วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ การมีศูนย์เวลเนส (Wellness Center) หรือมีหน่วยให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร (Medical hub)

(ร่าง)ข้อเสนอเพิ่มเติมจังหวัดสงขลา

5.ส่งเสริมให้มีชุมชนสร้างสุข ระดับตำบล อำเภอ นำร่องในการปฎิบัติการร่วมกัน โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนยกระดับตนเองจัดบริการร่วมเพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ (คัดกรองสุขภาวะ/แผนส่งเสริมสุขภาวะ/ธรรมนูญสุขภาวะ)สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น มีกลไกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานสอดประสานเป็นทีมสหวิทยา จัดบริการแบบไร้รอยต่อ

6.ร่วมกันบูรณาการทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อเสริมศักยภาพประชาชน มีการเชื่อมโยงการทำงาน ทำงานอย่างมีความสุข ลดความซ้ำซ้อน พัฒนาทักษะให้กับบุคคลากรที่มีและบุคลากรใหม่ จัดการความรู้ให้มีหลักสูตรกลาง ให้กับกำลังคนสุขภาพ รวมถึงพัฒนาบุคคลากรวิชาชีพใหม่ที่ยังขาดแคลนเพื่อรองรับงาน

8.สถาบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัดสงขลาร่วมกันวิจัยปฎิบัติการ (Action Research) จัดการความรู้ ขยายผล

9.พัฒนากลไกรับผิดชอบการดำเนินงานระดับจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นหน่วยงานประสานการทำงาน

หมายเหตุ สมัชชาเชิงประเด็นจังหวัดสงขลาจะดำเนินการวันที่ 10 ตุลาคม 2567 เป็นกิจกรรมคู่ขนานไปด้วยกันกับสมัชชาสุขภาพแห่งชาติปี 2567 "พลิกโฉมกำลังคนสุขภาพเพื่อสังคมสุขภาวะ"

กำลังคนสุขภาพแนวใหม่ หมายถึง บุคลากรทางการแพทย์หรือสาธารณสุขที่ปฏิบัตหน้าที่ให้บริการสุขภาพที่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อกำหนดรองรับ ทั้งยังครอบคลุมถึงบุคคล และกลุ่มบุคคลอื่นที่สามารถมีส่วนร่วมในด้านสาธารณสุข เป็นหุ้นส่วนสำคญในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งทางด้านร่างกายและใจ เพื่อไปสู่เป้าหมายสุขภาวะที่ดี รวมถึง การผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพและคุณภาพ มีความรู้ ทักษะในการบริการสุขภาพ มีจิตสาธารณะ และร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในสงคม
บคลากรที่มิใช่วิชาชีพสุขภาพ หมายถึง บุคลากรที่มิได้เป็นบุคลากรวิชาชีพสุขภาพ ผ่านการอบรมการบริการสุขภาพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีสมรรถนะ ประสบการณ์ และความรู้ ในการให้บริการด้านสุขภาพ ภายใต้การกำกับดูแลของบุคลากรวิชาชีพสุขภาพ สนับสนุนการดำเนินงานของบุคลากรวิชาชีพสุขภาพ หนุนเสริมการจัดบริการสุขภาพ

Relate topics