สช. ร่วมจัดทำแผนกลไกการดำเนินงาน 5 จังหวัดนำร่อง เป้าหมายร่วมจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลไกจังหวัด สู่การพัฒนาประเด็นและข้อเสนอเชิงนโยบายระดับจังหวัด
สช. ร่วมจัดทำแผนกลไกการดำเนินงานจังหวัดนำร่อง เป้าหมายร่วมจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลไกจังหวัด สู่การพัฒนาประเด็นและข้อเสนอเชิงนโยบายระดับจังหวัด
3 กรกฎาคม 2568 เวทีWorkshop กลไกการดำเนินงานจังหวัดนำร่อง ภายใต้ความร่วมมือสภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์กรชุมชน) และสภาองค์กรชุมชน ณ โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยมีนายณรงค์ ม่วงประเสริฐ เลขาธิการสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ นายจารึก ไชยรักษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นายวิริยะ แต้มแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และ คุณวิภาศศิ ช้างทอง ประธานที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล ร่วมแลกเปลี่ยนและแลกเปลี่ยนข้อเสนอเพื่อออกแผนงานระดับพื้นที่ 5 จังหวัด กว่า 50 คนเข้าร่วม
งานครั้งนี้เกิดความร่วมมือจาก สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กับสภาองค์กรชุมชน สภาเกษตรกรแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ร่วมออกแบบแนวทางการทำงานเพื่อนำสู่การดำเนินงานจังหวัดนำร่อง โดยมีเป้าหมายร่วมในการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลไกจังหวัดสู่การพัฒนาประเด็นและข้อเสนอเชิงนโยบายระดับจังหวัด
ซึ่งวางเป้าหมายในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพะเยา จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สกลนคร และตรัง
เป้าหมายหลักของการดำเนินงานมี 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ (1) สำรวจความต้องการของเกษตรกร และเครือข่ายในพื้นที่ (2) ผลัก ดันการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ไปสู่การปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และ (3) สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะใน 5 ด้าน (ด้านเกษตรกรรม,สุขภาพ,เศรษฐกิจ,สังคม และสิ่งแวดล้อม)
นายจารึก ไชยรักษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวถึงบทบาทของสำนักงานฯ ว่า สช. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกระบวนการสร้างนโยบายสาธารณะบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านเครื่องมือตามพรบ.สุขภาพแห่งชาติ อาทิเช่น สมัชชาสุขภาพ ธรรมนูญสุขภาพ การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ และสิทธและหน้าที่ด้านสุขภาพ เป็นต้น โดยเฉพาะในพื้นที่นำร่องทั้ง 5 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านชุมชนและองค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง เรื่องสุขภาพไม่ใช่เป็นเรื่องเจ็บปวดอย่างเดียวแต่ทุกนโยบายมีการเชื่อมโยงที่เกี่ยวกับสุขภาพ โดยยึดหลักแนวทางของปัจจัยกำหนดสุขภาพ
“สช. จะร่วมสนับสนุนกระบวนการทำงานแบบมีส่วนร่วมในทุกระดับให้เกิด “พื้นที่กลาง” ตั้งแต่การรับฟังปัญหา ความต้องการ และข้อเสนอจากชุมชน เพื่อใช้พื้นที่กลางสำหรับการพูดคุยอย่างเท่าเทียม ไปจนถึงการผลักดันให้ข้อเสนอจากภาคประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการจัดทำนโยบายของรัฐได้จริง” นายจารึกกล่าว
นอกจากนี้ สช. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา ระบบข้อมูลและฐานความรู้ในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สถานการณ์ และกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนเชิงนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ ทั้งภาคราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรชุมชน และสภาเกษตรกร“การทำงานร่วมกันในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการบูรณาการพลังของทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิด ‘กลไกจังหวัด’ ที่มีชีวิต ไม่ใช่แค่โครงสร้าง แต่เป็นระบบที่มีความเคลื่อนไหว มีเป้าหมายร่วม และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง” นายจารึก ไชยรักษ์ กล่าวสรุป
โดยที่ประชุมสรุปแผนที่จะดำเนินการ ประกอบด้วย การผนึกพลังภาครัฐ ภาคประชาชน ประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในกลไกกลาง และในพื้นที่กลาง รวมถึงมีการกำหนดตัวชี้วัดร่วมเพื่อติดตามผลการขับเคลื่อนกันในทุกระยะ
รายงาน: สุภาภรณ์ สช.น., ชญาดา สช.อ., บุณยวรีย์ สช.ก.
Relate topics
- โครงการอบรมพัฒนาศักยภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยรู้เท่าทันแอลกอฮอล์: เสริมสร้างความรู้และทักษะเพื่อการจัดการกับปัญหาแอลกอฮอล์ในสังคม
- โครงการ “รวมพลังชาวสงขลาให้ทุกครัวเรือนมีบ้าน: ความสุขเริ่มที่บ้าน” ติดตามการดำเนินงานของคณะทำงานในระดับพื้นที่อำเภอนาทวี
- “ความยุติธรรมที่ประชาชนเข้าถึงได้: บทบาทรัฐและการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่”
- บันทึกจากเวทีแลกเปลี่ยนเพื่ออนาคตชายแดนใต้
- 11.11 กขป.11 สานพลังหุ้นส่วนสุขภาพสู่สังคม
- "ประชุมนัดสุดท้าย กขป.เขต 12 ชุด2"
- “20 ปี ปลุกพลังวิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต” บทสรุปของชื่องานสร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14
- ศพด.บ้านราษฎร์พัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี รณรงค์สร้างจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยทางถนน ปลูกฝังพฤติกรรมข้ามถนนการข้ามทางม้าลายอย่างปลอดภัย
- “สิทธิที่เลือกได้” เขตสุขภาพที่ 11 เดินหน้าขับเคลื่อนระบบ e-Living Will สู่สถานพยาบาลภาคใต้
- เขต 12 พัฒนาศักยภาพและหนุนเสริมการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ(พชอ.)ต่อการป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น 33 อำเภอในจังหวัดชายแดนใต้